ดนตรีกาล
ก่อนนั้นเมื่อครั้งฉันเยาว์วัย
ฉันเคยได้รู้ความนัย
ว่าหัวใจหากคนไร้ดนตรีกาล
ในสันดานเป็นคนชอบกล
จากนั้นฉันจึงได้เข้าใจ
ดนตรีประโลมโลกไว้อย่างไร
กล่อมหัวใจให้คนหายจากทุกข์โศก
ขับกล่อมโลกให้หลับไหลด้วยนิทรา ฮืม
ยามเพลงดังใจฉันยินดี
เหมือนมีมนต์สะกดให้ฟัง
ทุกข์ใดสลายหมดสิ้นพลัน
ด้วยเวทมนตร์แห่งดนตรีกาล
จวบจนถึงวันที่เวลาเลยล่วงไป
จิตวิญญาณพลันหายไกลเสียงดนตรีไปอยู่ไหน
ราวกับดนตรีตายจิตวิญญาณพลันสลาย
ไม่มีแล้วจากนี้ไม่มีดนตรีอีกต่อไป โฮ้
กลับมาเถิดดนตรี กลับมาเถิดดนตรี
กลับมาเถอะมาร่ำมาร้องเพลงกัน
กลับมาเถิดดนตรี กลับมาเถิดดนตรี
กลับมาเถอะให้เราได้ร่ายรำกัน
กลับมาเถิดดนตรี กลับมาเถิดดนตรี
กลับมาเถอะมาร่ำมาร้อเงพลงกัน
กลับมาเถิดดนตรี กลับมาเถิดดนตรี
กลับมาเถอะให้เราได้ร่ายรำกัน
จะกู่จะร้องอย่างเสรี ไม่มีผู้ใดมาขัดขวาง
ให้เสียงดนตรีนำหนทางหัวใจ
จะสุขจะทุกข์จะร้องรำจะเริงระบำรอบกองไฟ
ให้เสียงดนตรีพาหัวใจได้เบิกบาน
จะขีดจะเขียนเล่าเรื่องราวให้คนรุ่นเยาว์ได้เรียนรู้
ว่าครั้งหนึ่งเราเคยเป็นอยู่เช่นไร
ให้ทุกบทเพลงที่เร่งดัง เหมือนเสียงระฆังสว่างใส
ให้ทุกความเศร้าในจิตใจได้ผ่อนคลาย
จะกู่จะร้องอย่างเสรี ไม่มีผู้ใดมาขัดขวาง
ให้เสียงดนตรีอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ทุกความผิดพลั้งที่ฉันทำทุกกรรมที่ฉันเคยก่อไว้
ให้เสียงดนตรีชำระใจให้เบิกบาน
โอ โอ เย้
มาร้องเพลงให้มันก้องดัง
แม้ในวันที่ฉันทุกข์ทน
เพราะใจคนมืดมนสักเท่าไร
ให้ดนตรีชำระล้างวิญญาณ
ให้ดนตรีชำระล้างวิญญาณ